หลายคนที่คิดกำลังจะสานต่อธุรกิจครอบครัว หรือใครก็ตามที่กำลังทำธุรกิจกับครอบครัวอยู่ เรามีเกร็ดความรู้ที่เกี่ยวกับการทำธุรกิจครอบครัวมาฝาก ! !
ธุรกิจครอบครัวคืออะไร
ธุรกิจครอบครัวที่มีรูปแบบโดยทั่วไปคือ
ธุรกิจที่หุ้นของกิจการมากกว่าครึ่งหนึ่งเป็นเจ้าของโดยสมาชิกของครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง
หรือธุรกิจที่มีการสืบทอดมาสู่ลูกหลานอีกรุ่นหนึ่ง
ประโยชน์ของธุรกิจครอบครัว
• มีมุมมองเดียวกัน
ทุกคนมีส่วนร่วมในอุดมการณ์และความเชื่อในสิ่งที่ควรทำเหมือนๆ กัน
ซึ่งจะทำให้เกิดความรู้สึกพิเศษที่มุ่งมั่นและภาคภูมิใจ
ที่เป็นข้อได้เปรียบทางการแข่งขันของธุรกิจ
• สามารถทุ่มเทกับการทำงานได้อย่างเต็มที่
ในการทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้จำเป็นต้องใช้เวลาและความพยายามสูง
ซึ่งในกรณีของธุรกิจครอบครัว จะมีความเข้าอก
เข้าใจเป็นพิเศษสำหรับวิธีการทำงานที่ทำให้แต่ละคนสามารถมีความยืดหยุ่นในเรื่องของเวลามากขึ้น
• ความซื่อสัตย์
ความสัมพันธ์ส่วนตัวที่เข้มข้น หมายถึง การที่ทุกคนในครอบครัวจะยึดติดกันไว้แม้ในยามยาก
รวมทั้งแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้
• ความมั่นคง
ความเป็นธุรกิจครอบครัวทำให้ทุกคนตระหนักดีว่าจะต้องเก็บธุรกิจนี้ไว้ให้รุ่นลูกหลานสืบต่อไป
ซึ่งจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดความคิด การวางแผนให้ธุรกิจเติบโต
และประสบความสำเร็จในระยะยาว
• ต้นทุนลดลง
สมาชิกของครอบครัวบางครั้งอาจยอมสละผลประโยชน์ทางการเงินบางส่วนเพื่อให้ธุรกิจอยู่ได้
ตัวอย่างเช่น การยอมรับค่าจ้างที่ต่ำกว่าการไปทำงานที่อื่น
หรือยังไม่รับเงินเดือนในช่วงที่เกิดปัญหาทางการเงิน เป็นต้น
อะไรที่ควรคำนึงถึงในการทำธุรกิจครอบครัว
ก่อนที่จะตัดสินใจทำธุรกิจครอบครัว
มีประเด็นที่อาจต้องเผชิญ ต้องคำนึงถึง และตัดสินใจ ดังนี้
• หุ้นทางธุรกิจจะถูกนำมาจัดสรรระหว่างสมาชิกในครอบครัวและถ้ากรณีมีบุคคลอื่นมาถือหุ้นด้วย
ต้องแน่ใจว่าการตัดสินใจจะอยู่บนพื้นฐานของเหตุผลทางธุรกิจมากกว่าเหตุผลส่วนตัว
• บทบาทและความรับผิดชอบจะแตกต่างกันระหว่างผู้ถือหุ้นภายในครอบครัวซึ่งมีบทบาทมากในธุรกิจกับบางคนที่ไม่ใส่ใจ
รวมถึงผู้ถือหุ้นจากภายนอก
การให้ผลตอบแทนแก่สมาชิกในครอบครัวตามบทบาทและความรับผิดชอบที่มีอยู่อาจก่อให้เกิดปัญหาได้
• บางครั้งอาจต้องเผชิญกับความขัดแย้งที่เกิดจากอารมณ์
ความรู้สึก ที่มาพร้อมกับทางด้านธุรกิจ
ผู้ทำหน้าที่บริหารต้องแสดงความรู้สึกทั้งในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว
ในขณะเดียวกับที่ต้องทำตัวเป็นเจ้านายเขาด้วย นอกจากนั้น ต้องพยายามหลีกเลี่ยงความขัดแย้งกับคนที่พิจารณาแล้วว่ามีส่วนต่อความสำเร็จในการทำธุรกิจ
• ต้องทำให้เกิดความมั่นใจได้ว่าการเงินของครอบครัวจะไม่ขึ้นอยู่กับธุรกิจทั้งหมด
ปัญหาใหญ่ที่ไม่ควรมองข้ามและนำมาสู่การแก้ไข
การทำธุรกิจครอบครัวเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน การผสมผสานระหว่างอารมณ์
ความรู้สึกกับการดำเนินธุรกิจอาจทำให้เกิดความขัดแย้งเกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง
ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นสามารถมองในทางบวกว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายที่นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลง
หากสามารถหลีกเลี่ยงหรือจัดการกับความขัดแย้งนั้นได้ โดยลองใช้วิธีที่จะแนะนำดังต่อไปนี้
•ลองคิดดูว่าคนในธุรกิจมีการติดต่อสื่อสารกันอย่างไร
มีการแยกแยะระหว่างเรื่องความรู้สึกส่วนตัวกับเรื่องงานหรือไม่
มีกระบวนการทำงานในองค์กรที่เอื้ออำนวยต่อบุคลากรอื่นนอกเหนือจากสมาชิกของครอบครัวได้แสดงความคิดเห็น
รวมทั้งสังเกตดูว่ามีใครในองค์กรที่มีแนวโน้มที่จะครอบงำความคิดของผู้อื่น
• วิธีการที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงความขัดแย้งคือ
การป้องกันความเข้าใจผิดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งแรก หรือคำโบราณที่เรียกว่า
“ตัดไฟแต่ต้นลม” การมีธรรมนูญที่ใช้เป็นข้อปฏิบัติของครอบครัวจะช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้
• จัดให้มีการประชุมร่วมกันระหว่างผู้บริหารธุรกิจ
เพื่อลดปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นโดยใช้เสียงข้างมากในการตัดสินใจเป็นหลัก
• ถ้าเกิดเหตุรุนแรงจนไม่สามารถแก้ไขได้
อาจต้องพึ่งที่ปรึกษา
ผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกมาทำหน้าที่เป็นเสมือนตัวกลางไกล่เกลี่ยข้อพิพาทที่เกิดขึ้น
• ต้องใช้การสื่อสารเป็นเครื่องมือในการลดปัญหาความขัดแย้ง
ซึ่งอาจทำได้โดย การไม่พูดถึงเรื่องส่วนตัวในที่ประชุม
สร้างกลไกในการมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ของทุกฝ่ายเพื่อลดความรู้สึกการไม่มีส่วนร่วมของบุคลากรที่ไม่ใช่ในครอบครัว
จัดให้มีการประชุมสัมมนานอกรอบอย่างไม่เป็นทางการบ้างเพื่อคุยในเรื่องของทิศทางและกลยุทธ์องค์กร
หรือแต่งตั้งที่ปรึกษาที่มีประสบการณ์สำหรับทำหน้าที่เสมือนตัวกลางเพื่อลดความกดดันจากการประชุม
หารือเรื่องธุรกิจลง
ข้อดี
•
ทุ่มได้เต็ม 100% ก็เป็นกิจการของเราเอง
ทำมากก็ได้มาก จะมาทำเช้าชามเย็นชามเมื่อไหร่จะออกดอกออกผล ว่าแล้วก็ขยันกันเต็มร้อย
ส่วนหนึ่งก็เพราะว่า “เรือล่มในหนอง ทองจะไปไหน” และอีกส่วนก็อาจจะมาจากแรงกดดันจากคนในครอบครัว
แบบที่กิจการของตัวเองทั้งทีแบบนี้ ไม่ขยันก็ไม่ได้แล้ว
•
ประสานงานได้ง่าย เรียกว่าคนในครอบครัวกัน คุยภาษาเดียวกันอยู่แล้ว
บางที่แค่อ้าปากก็รู้ว่าอีกคนต้องการอะไร
เพราะอย่างนี้ธุรกิจในครอบครัวจึงประสานงานได้อย่างรวดเร็ว รับ – ส่งข้อมูลกันได้ดีไม่มีติดขัด เพราะว่ารู้จักรู้ใจกันมานานนี่เอง
•
ความลับไม่ไปไหน... เงินทองไม่รั่วไหล ทำเท่าไหร่ก็เข้ากงสี
ไม่มีที่จะถูกยักย้ายถ่ายเทไปยังหุ้นส่วน หรือคนนอกตระกูลให้เสียเปล่า
ส่วนเรื่องความลับทางธุรกิจก็ไม่ต้องกลัวว่าจะล่วงรู้ถึงหูคู่แข่งได้ง่าย
เพราะอย่างไรเราก็มีศัตรูทางธุรกิจร่วมกัน
•
เข้าใจคน เข้าใจงาน เพราะว่ารู้จักนิสัยใจคอ
และความถนัดกันดีอยู่แล้ว ธุรกิจในครอบครัวจึงสามารถจัดคนให้เข้ากับงานได้โดยง่าย
คนนี้พูดเก่ง เข้ากับคนง่ายก็ต้องไปทำงานด้านประชาสัมพันธ์ คนนี้ขายเก่งไปอยู่ฝ่ายขาย
คนนี้เรื่องการเงินไม่บกพร่อง คล่องเรื่องตัวเลข ก็ส่งไปประจำฝ่ายบัญชี
เท่านี้เครือข่ายของธุรกิจจึงเป็นองค์กรหนึ่งในหลายๆ องค์กรที่ประสบความสำเร็จ
ข้อเสีย
ขึ้นชื่อว่าอะไรดี
ก็ต้องมีข้อเสียว่าแล้วเรามาดูข้อเสียของการทำงานแบบครอบครัวกันดีกว่า
•
ผิดใจ ผิดยาว สำหรับคนที่เป็นลูกจ้างบริษัท ผิดใจกับเจ้านาย
ไม่นานก็หาย หรือถ้าย้ายบริษัทไปพักใหญ่ก็อาจจะกลับมาคุยต่อกันได้ แบบต่อก็ติด
แต่ถ้าเป็นคนในครอบครัว เวลาผิดใจกัน มันจะพาลเอาทุกเรื่องมาปนกับงานเสียหมด
เพราะเรื่องรักใคร่ ก็ไม่เข้าใครออกใคร จะบอกว่ารักทุกคนเท่ากัน มันคงไม่มีจริง
•
เลือดข้นกว่าน้ำ บริหารแบบครอบครัวในกิจการของครอบครัว
เวลามีการเปิดสายงานใหม่ ตำแหน่งใหม่ อะไรใหม่ๆ
คนที่จะได้พิจารณาให้รับในสิ่งนั้นก็หนีไม่พ้นคนในครอบครัว
ตรงนี้ช่องโหว่ค่อนข้างเยอะ เพราะบางทีคนดีๆ ที่มีความสามารถแต่ขาดแค่ “นามสกุล” ก็อาจจะต้องพลาดไป
ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียดายที่คนเก่งๆ
ที่จะมาช่วยกิจการอาจต้องไม่ได้เข้ามามีบทบาทเท่าไหร่ เพียงเพราะไม่ใช่คนในตระกูล
•
เชยจนชิน บางครั้งวัฒนธรรมองค์กรที่มีมานานมันก็ยากจะแก้ไข ทั้งๆ
ที่บริษัทอาจจะต้องไหลไปตามกระแสโลกบ้าง
แต่บ้างครั้งเรื่องนั้นกลับเป็นเรื่องใหญ่ที่คอยขัดขวาง ความคุ้นเคยกับสิ่งเดิมๆ
ระบบเดิมๆ อาจจะดีจริงในเรื่องความแม่นยำและความมั่นคง แต่ถ้าไม่กล้าเสี่ยงเสียเลย
จะให้เติบโตในธุรกิจคงเป็นไปได้ยาก
•
เส้นใหญ่...สายใหญ่ ระบบอุปถัมภ์เป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้
ในการทำกิจการครอบครัว แน่นอนว่าแม้เกิดในตระกูลเดียวกัน
แต่ก็ไม่ได้มีความรับผิดชอบเท่ากันไปเสียทุกคน บางคนมาก บางคนน้อย
บางคนแทบไม่มีเลย คิดเสียว่าเป็นบริษัทของพ่อแม่เรา ยังไงเสียก็ไม่ถูกไล่ออก
ผลาญเงินไปวันๆ นั่งเสียเวลา เปลืองอากาศหายใจยังไงก็ไม่มีใครกล้าตักเตือน
เรียกว่าสบายจนเคยชิน แบบนี้ก็ลำบาก แต่เชื่อแน่ว่ามีอยู่ทุกกิจการของครัวเรือน!
การสร้างความสมดุลในความต้องการระหว่างครอบครัวและธุรกิจ
เมื่อท่านอ่านมาถึงบรรทัดนี้ท่านคงทราบถึงข้อดีข้อเสียของธุรกิจครอบครัวแล้ว
จะทำอย่างดี ข้อแนะนำคือให้เรา สร้างความสมดุลในความต้องการระหว่างครอบครัวและธุรกิจ เพราะ เมื่อธุรกิจและครอบครัวสมดุลจะก่อให้เกิด
- ความไว้เนื้อเชื่อใจกัน
- การมีข้อตกลงร่วมกัน
- ธุรกิจมีประสิทธิผลที่ดี
- ครอบครัวเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
แต่ถ้าเรา
เน้นธุรกิจมากกว่าครอบครัว จะกัดกร่อนในเรื่อง
- การสื่อสารของครอบครัว
- ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของครอบครัว
- ความภักดีของคนในครอบครัว
- เวลาของคนในครอบครัว
- อารมณ์ของคนในครอบครัว
และถ้าเรา
เน้นครอบครัวมากกว่าธุรกิจ จะกัดกร่อนในเรื่อง
- การสื่อสารในธุรกิจ
- ความสัมพันธ์ทางธุรกิจ
- การประเมินผลการปฏิบัติงาน
- การตัดสินใจ
- การเลือกกลยุทธ์
5
เคล็ดลับเปลี่ยนแนวคิด “ธุรกิจครอบครัว”
สู่ความยั่งยืน
ผู้ประกอบการธุรกิจครอบครัวไทย
ต้องเตรียมพร้อมและปรับตัวรับความท้าทายหากต้องการอยู่รอดและเติบโตอย่างยั่งยืน
ท่ามกลางกระแสความเปลี่ยนแปลงของกติกาการค้าทั้งในระดับโลกและภูมิภาคที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
ขณะที่เทคโนโลยี, การวางแผนสืบทอดกิจการ, นวัตกรรมใหม่ๆ, บุคลากรที่มีศักยภาพ และ การขยายกิจการไปในต่างประเทศ จะเป็น 5 ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันการพัฒนาธุรกิจครอบครัวให้เติบโตและประสบความสำเร็จในปีนี้ ยิ่งกระแสการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) กำลังซึมซับและเข้าไปอยู่ในสายเลือดของคนไทยไปเรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะกับภาคธุรกิจไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ หรือแม้แต่ ธุรกิจครอบครัว ที่ต้องเปลี่ยนผ่านธุรกิจจากรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่ง ที่ต้องพยายามแสวงหาโอกาสเพื่อความก้าวหน้าและความอยู่รอดในการดำเนินธุรกิจ เพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้ในรุ่นต่อไป ทางรอดของธุรกิจครอบครัว มีตั้งแต่การผลักดันให้ลูกหลานก้าวขึ้นมารับช่วงสืบทอดกิจการ การหามืออาชีพเข้ามาช่วยบริหาร ไปจนถึงการขายกิจการครอบครัว หรือในบางกรณี การนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้น และเป็นการเปิดให้คนนอกครอบครัวเข้ามารับรู้เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการธุรกิจมากขึ้น อีกทั้งกระบวนการต่างๆก่อนการทำ IPO ซึ่งนั่นหมายถึง ธุรกิจต่างๆที่เคยประกอบกิจการแบบ “กงสี” จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงกันยกใหญ่ ศิระ อินทรกำธรชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท PwC ประเทศไทย (ไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส) กล่าวว่า ความสำเร็จของธุรกิจทั่วไปนั้น ปกติจะวัดกันที่รายได้ ยอดขาย กำไร แต่สำหรับธุรกิจครอบครัว เป้าหมายคือการเติบโตอย่างยั่งยืนไปสู่รุ่นลูกรุ่นหลาน ซึ่งถึงแม้ว่าธุรกิจในภูมิภาคเอเชียกว่าร้อยละ 70-80 ล้วนเป็นธุรกิจที่เติบโตมาจากกิจการครอบครัวแทบทั้งสิ้น แต่ผลจากการศึกษาของหลายๆสำนักพบว่า อัตราการอยู่รอด (Survival rate) ของธุรกิจครอบครัวจนถึงรุ่นที่ 3 หรือ 4 กลับมีน้อยมากหรือไม่ถึงร้อยละ 5 เป็นที่มาของคำกล่าวที่ว่า ธุรกิจครอบครัวมักจะไปได้ไม่เกิน 3 ชั่วอายุคน
ศิระ อินทรกำธรชัย
เช่นเดียวกันกับธุรกิจครอบครัวไทย
ที่มีผู้ประกอบการน้อยราย (เปรียบเทียบกับจำนวนผู้ประกอบการทั้งประเทศ)
ที่มีฐานทุนขนาดใหญ่
และมีระบบบริหารจัดการที่ดีเพียงพอที่จะสามารถต่อยอดกิจการให้เติบใหญ่ยืนหยัดเป็นสิบๆร้อยๆ
ปีแบบบริษัทต่างชาติ ซึ่งประเด็นการอยู่รอดของธุรกิจครอบครัวที่ไปได้ไม่ไกลเกิน 3 รุ่นนั้น
ส่วนใหญ่เกิดจากปัจจัยภายใน (Internal factors) เช่น
เมื่อธุรกิจเติบโต จำนวนสมาชิกของตระกูลเพิ่มขึ้น ความแตกต่างระหว่างคนรุ่นเก่า (Baby
boomer) กับเด็กรุ่นใหม่ (Generation Y) ก็เริ่มขยายตัวขึ้น
ยิ่งลักษณะวัฒนธรรมไทยมีการสื่อสารกันน้อย
ทำให้ขาดการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างสมาชิกครอบครัว มีระบบ Seniority สูง ยิ่งทำให้เกิดความขัดแย้งสั่งสมกันหลายประเด็นในธุรกิจครอบครัว
“โจทย์ใหญ่ที่ผู้ประกอบการจะต้องไปศึกษา หาคำตอบกับทีมบริหารตั้งแต่วันนี้ คือจะทำอย่างไรให้องค์กรของตนมีส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างการมี Talent ที่เหมาะสมกับงาน มีเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ต้องถามตัวเองว่ากลยุทธ์ที่ใช้ในวันนี้จะยังช่วยให้ธุรกิจที่ทำ คงอยู่ในกระแสความต้องการไปได้อีกห้าปีข้างหน้าหรือไม่ รวมทั้งต้องกล้าตัดสินใจในเรื่องที่จะทำให้องค์กรเติบโตไม่หยุดนิ่ง สามารถรักษาส่วนแบ่งการตลาด รวมทั้งเจาะตลาดและขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ สิ่งที่สำคัญคือต้องรู้จักบริหาร Risk และหาจุดกึ่งกลางที่เหมาะสมระหว่างการลงทุนและการกระจายความเสี่ยงด้วย,” นาย ศิระ กล่าว
|
เนื้อหาดีมากเลยค่ะ นำไปใช้ประโยชน์ได้ดีทีเดียว
ตอบลบอ่านแล้วเข้าใจมากๆเลยครับ
ตอบลบเนื้อหามีสาระดีมากๆค่ะ น่าสนใจ เหมาะแก่การนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
ตอบลบIt's very interesting.
ตอบลบเนื้อหามีสาระดีมากค่าาา สามารถนำไปใช้ในการประกอบธุรกิจได้เลย :}
ตอบลบทำให้เข้าใจคำว่าธุรกิจครอบครัวมากขึ้น ที่บ้านก็มีอยู่สามารถนำไปใช้ได้ดีจริงๆค่ะ ขอบคุณนะคะ
ตอบลบเนื้อหาดีค่ะ มีสาระ เป็นที่น่าสนใจ
ตอบลบเนื้อหาเป็นที่น่าสนใจมากค่ะ เป็นเรื่องใกล้ตัวที่น่าสนใจ
ตอบลบเนื้อหาน่าสนใจมากเลยคะ สามารถไปปรับใช้ได้
ตอบลบเนื้อหาได้เพิ่มความรู้ได้มากเลยค่ะ ทำให้รู้เเละเข้าใจอะไรๆได้มากขึ้น ขอบคุณมากๆ ค่ะ
ตอบลบสุดยอดเลยครับ
ตอบลบน.ส.เกศสุดา ปิ่นเกษ
ตอบลบน.ส.เกศสุดา ปิ่นเกษ
ลบ